งานไม้ diyเล็กๆ ยุคกรีก (Ancient Greek music) อารยธรรมโบราณทางพื้นทวีป ยุโรปตะวันออก กำเนิดคราวหลังพื้นทวีปทวีปเอเชียทิศตะวันออกซึ่งเกิดขึ้นก่อนคริสต์ศักราช 3,000 ปี ความก้าวหน้าในศิลปวัฒนธรรมของยุโรปตะวันออกเกิดขึ้นเมื่อ1,000ปีกลายคริสต์ศักราช ความเจริญก้าวหน้าดังที่กล่าวมาข้างต้น สูงสุดอยู่ที่ประเทศภาษากรีกซึ่งชื่นชมดนตรีเป็นสิ่งศักดาสิทธ์สามารถใช้สำหรับการชำระล้างบาปรวมทั้งความไม่บริสุทธิ์ทางจิตใจได้สามารถรักษาบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บได้ นอกเหนือจากนี้ดนตรียังได้รับการชมเชยเป็นศิลป์ชั้นสูงควรจะที่รักการศึกษาเล่าเรียน
งานไม้ diyเล็กๆ วัฒนธรรมตะวันตก
ถูกผูกติดอยู่ที่ชาวภาษากรีกโบราณและก็ชาวโรมันอย่างปฎิเสธไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวบริบูรณ์ความยอดเยี่ยมของความสวยสดงดงาม แล้วก็ศิลป์มีต้นกำเนิดจากภาษากรีก และทางปรัชญาของภาษากรีก เรื่องราวของดนตรีภาษากรีกโบราณตั้งแต่เริ่มถึง 330 ปี ก่อนคริสต์กาล(330 B.C;) เมื่อ วัฒนธรรมของภาษากรีกแยกเป็น 2 สาย พูดอีกนัยหนึ่ง
สายที่ 1 ทางทิศตะวันออก (Alexander the Great) และก็สายที่ 2 ด้านตะวันตก (ตามชาวโรมัน) นอกเหนือจากนั้นดนตรีภาษากรีกยังแบ่งได้เป็นยุดต่างๆได้ดังต่อไปนี้
ตั้งแต่อดีตกาลจนกระทั่งเดี๋ยวนี้
การสืบเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาที่ไปของดนตรีตั้งแต่อดีตกาลมา ถือได้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้ได้เรื่องราว ยุคของการรู้จักใช้อักษรหรือเครื่องหมายอื่นๆเพึ่งจะมีปรากฏรวมทั้งเริ่มนิยมใช้กันในยุคเริ่มของสมัยMiddle ageเป็นระหว่างศตวรรษที่ 5-6 รวมทั้งการบันทึกมีเพียงแต่สัญลักษณ์แสดงเพียงแต่ระดับของเสียง และก็จังหวะ (Pitch and time )ดนตรีเกิดมาในโลกพร้อมๆกับมนุษย์เรานั่นเอง ในสมัยแรกๆมนุษย์อาศัยอยู่ในป่าดง ในถ้ำ ในโพรงไม้ แม้กระนั้นก็รู้จักการตะโกนรำทำเพลงตามธรรมชาติ อย่างเช่นรู้จักตบมือ เคาะหิน เคาะไม้ ผิวปาก เป่าเขา

แล้วก็ออกเสียงร้องตามเรื่องตามราว การส่งเสียงร้องรำทำเพลงไปเพื่อวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าเพื่อช่วยทำให้ตนปลอดภัย บันดลความสบายความอุดมสมบูรณ์ต่างๆให้แก่ตน หรือเป็นการบูชาแสดงความขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้าที่บันดลให้ตนแฮปปี้ความสบายโลกได้ผ่านหลายสมัยหลายยุค ดนตรีได้พัฒนาการไปตามความก้าวหน้าแล้วก็ความสร้างสรรค์ของคนเรา อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีที่เคยใช้ในยุคเริ่มต้นก็มีการพัฒนาการมาเป็นขั้นๆเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรี ที่พวกเรามองเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เพลงที่ร้องเพื่อขอร้องพระผู้เป็นเจ้า ก็เปลี่ยนมาเป็นเพลงสวดทางศาสนา รวมทั้งเพลงร้องโดยธรรมดา
ในระยะต้น ดนตรีมีเพียงแค่เสียงเดียวและก็แนวเดียวเพียงแค่นั้นเรียกว่า Melody ไม่มีการผสานเสียง จนกระทั่งศตวรรษที่ 12 มนุษย์เราเริ่มรู้จักการใช้เสียงต่างๆมาผสานกันอย่างง่ายๆกำเนิดเป็นดนตรีหลายเสียงขึ้นมา
การศึกษาเล่าเรียนวิชาประวัติความเป็นมาดนตรีตะวันตกหลายๆคนคงจะมีความคิดว่าเกิดเรื่องไกลตัวอย่างมาก แล้วก็มักมีปัญหาเสมอว่าจะเรียนรู้ไปเพราะเหตุไรคำตอบก็คือ ดนตรีตะวันตกเป็นรากของดนตรีที่พวกเราได้ยินได้ฟังกันตอนนี้
ที่ไปที่มาของดนตรีหรือประวัติศาสตร์ดนตรีนั้นหมายความว่าการมองย้อนไปไปใน
อดีตกาลเพื่อพากเพียรทำความเข้าใจกับประเด็นต่างๆของอดีตกาลในแต่ละยุคนับเวลาย้อนกลับไปตรงเวลาหลายพันปีจากสภาพสังคมที่แวด ล้อมทรรศนะคติแล้วก็รสนิยมของผู้ผลิตสรรค์แล้วก็คนฟังดนตรีในแต่ละยุคนั้นแตก ไม่เหมือนกันเช่นไรจากการลองถูกลองผิดทดลองแล้วทดลองอีกการจินตนาการตามแนวความคิดของผู้ บทกลอนเพลงจนกว่าไตร่ตรองออกมาเป็นเพลงให้ผู้คนได้ฟังกันจนกระทั่ง ทุกวันนี้ชนิดของเพลงดนตรี
เพลงชนิดต่างๆ แบ่งตามรูปแบบของวงดนตรีได้ 6 ชนิด ดังต่อไปนี้ เพลงที่เล่นเพลงโดยวงออร์เคสตร้า ( Orchestra ) มีดังนี้ซิมโฟนี่ (Symphony) คือการบรรเลงเพลงโซนาตา ( Sonata) อีกทั้งวง คำว่าSonata คือ เพลงผู้เดียวของอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีประเภทต่างๆ ตัวอย่างเช่นเพลงของไวโอลิน เรียกว่า Violin Sonata อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีประเภทอื่นๆก็เช่นกัน การนำเอาเพลงโซนาตาของอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีหลายๆประเภทมาบรรเลงพร้อมเรียกว่า ซิมโฟนี่ คอนเซอร์โต ( Concerto) เป็นเพลงผสมระหว่างโซนาตากับซิมโฟนี่ แทนที่จะมีเพลงคนเดียวแต่อย่างเดียว หรือร้องเพลงพร้อมเพียงกันไปในเวลาเดียวกัน อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีที่แสดงการโดดเดี่ยวนั้น โดยมากใช้ไวโอลินหรือเปียโนเพลงจิปาถะ เป็นเพลงที่แต่งขึ้นเล่นเพลงจิปาถะไม่มีเนื้อร้อง
เพลงที่เล่นเพลงโดยวงแชมเบอร์มิวสิค ( Chamber Music ) เป็นเพลงสั้นๆ อยากได้แสดงลวดลายของการเล่นเพลงรวมทั้งการผสานเสียง ใช้อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีชนิดเครื่องสาย เป็นไวโอลิน วิโอลา และก็เชลโล
สำหรับโดดเดี่ยว เพลงจำพวกนี้แต่งขึ้นสำหรับอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีชิ้นเดียวเรียกว่า เพลง โซนาตาMythical Period จากเริ่มถึง 1,000 ปี ก่อนคริสต์กาล (1,000 B.C.) ในปัจจุบันนี้ได้หายไปในความเร้นลับของศาสตร์ที่เทพนิยายภาษากรีกดนตรีชนิดนี้ใช้ประกอบพิธีบาปของลัทธิทวยเทพอพอลโล (Apollo) ผู้เป็นเจ้าที่แสงไฟ ซึ่งรวมทั้งความมีเหตุมีผลแล้วก็ระเบียบถือความถูกต้องแน่ใจและก็การดำนงชีพตามทางทางสายกลาง อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีที่ใช้หมายถึงพิณไลร่า (Lyre)
ทางตรงกันผ่านเป็นสื่อถึงความทารุณอื้ออึง ครึกครื้น ความเร้นลับ รวมทั้งความมืดดำ เทพนิยายอื่นๆที่เกี่ยวกับดนตรีเป็น บรรดาเทวดา 9 องค์ เป็นลูกสาวของเทวดาซีอุส ซึ่งเป็นเทวดาประจำสรรพวิทยารวมทั้งศาสตร์แต่ละจำพวก โลกได้ผ่านหลายสมัยหลายยุค ดนตรีได้พัฒนาการไปตามความก้าวหน้าและก็ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของผู้คน อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีที่เคยใช้ในยุคเริ่มต้นก็มีการพัฒนาการมาเป็นขั้นๆเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรี ที่พวกเรามองเห็นอยู่วันแล้ววันเล่า เพลงที่ร้องเพื่อขอความช่วยเหลือพระผู้เป็นเจ้า ก็เปลี่ยนมาเป็นเพลงสวดทางศาสนา รวมทั้งเพลงร้องโดยธรรมดา งานไม้ diyเล็กๆ
ในระยะเริ่มต้น ดนตรีมีเพียงแต่เสียงเดียวแล้วก็แนวเดียวเพียงแค่นั้นเรียกว่าMelodyไม่มีการผสานเสียง จนกระทั่งศตวรรษที่ 12 มนุษย์เราเริ่มรู้จักการใช้เสียงต่างๆมาผสานกันอย่างง่ายๆกำเนิดเป็นดนตรีหลายเสียงขึ้นมา
การศึกษาเล่าเรียนวิชาประวัติความเป็นมาดนตรีตะวันตกผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอาจมีความคิดว่าเกิดเรื่องไกลตัวอย่างมากและก็มักมีปัญหาเสมอว่าจะเรียนไปเพราะอะไรคำตอบก็คือ ดนตรีตะวันตกเป็นรากของดนตรีที่พวกเราได้ยินได้ฟังกันปัจจุบันนี้ ที่ไปที่มาของดนตรีหรือประวัติศาสตร์ดนตรีนั้นซึ่ง
ก็คือการมองย้อนไปไปในสมัยก่อนเพื่ออุตสาหะทำความเข้าใจกับประเด็นต่างๆของอดีตกาลในแต่ละยุคนับเวลาย้อนกลับไปตรงเวลาหลายพันปีจากสภาพสังคมสิ่งแวดล้อมทรรศนะคติและก็รสนิยมของผู้ผลิตสรรค์แล้วก็คนฟังดนตรีในแต่ละยุคนั้นไม่เหมือนกันเช่นไรจากการลองถูกลองผิดทดลองแล้วทดลองอีกการจินตนาการตามแนวความคิดของ
กวีเพลงตราบจนกระทั่งพิจารณาออกมาเป็นเพลงให้ผู้คนได้ฟังกันจนกระทั่งในขณะนี้การศึกษาเล่าเรียนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์หรือการมองย้อนกลับไปในสมัยก่อนนั้นนอกเหนือจาก เป็นไปเพื่อความไม่กังวลใจสำหรับการได้ศึกษาเล่าเรียนแล้วก็รับรู้เรื่องราวของอดีตกาลโดย งานไม้ diyเล็กๆ ตรงแล้วยังเป็นการเรียนรู้ เป็นแถวทางเพื่อทำความเข้าใจดนตรีที่เกิดขึ้นแล้วก็ความเคลื่อนไหวในด้านของ ดนตรีในขณะนี้และก็เพื่อนำมาใช้เพื่อสำหรับในการทายหรือเดาถึงแนวโน้มของดนตรีใน อนาคตด้วย เอ่ยถึงประวัติความเป็นมาดนตรีตะวันตกซึ่งแบ่งได้ยุคต่างๆได้ 9 ยุค ดังต่อไปนี้ (ณรุทธ์ สุทธจิตต์,2534 : 133)
ช่วงดนตรีตะวันตก งาน diy ไม้
ช่วงต่างๆเป็นตัวแบ่งเหตุต่างๆบนโลก โดยเริ่มตั้งแต่ครั้งพระเจ้าเหา ยุคอารยธรรมโบราณ ยุคต้นและก็กึ่งกลางคริสต์ศตวรรษ ยุคบาโรค ยุคคลาสสิค ยุคโรแมนตำหนิค และก็สมัยนี้ การดนตรีในสมัยต่างๆก็มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลซึ่งสามารถแสดงได้ว่ามาจากสมัยใดและก็มีหน้าที่ยังไง ตามที่ ละเอียด เหราปัตย์ (2522: 1) พูดว่า ดนตรีในครั้งพระเจ้าเหามีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของมนูษ ย์มากยิ่งกว่าในปัจจุบันนี้ เป็นการแสดงออกถึงจิตวิทยา สังคม ศาสนา สิ่งสักการะ แล้วก็ภาษา เพลงทุกเพลงในยุคเริ่มแรกควรมีความหมายทั้งนั้น การจะเข้าหัวใจในเพลงนั้นๆอย่างแม่นยำโดยความเป็นจริงจำเป็นต้องไปเล่าเรียนจากชนท้องที่ที่เป็นเจ้าขอ งบประมาณทเพลงนั้น ดนตรีสมัยพระเจ้าเหามีบทบาท 2 ประการสำคัญ เป็นHomeric Period 1,000 – 700 (B.C) โฮเมอร์ (Homer) เป็นผู้จัดตั้งสมัยปัจจุบันนี้
รวมทั้งในสมัยปัจจุบันมีบทกลอน ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติ มีเหตุที่เกิดจากการเดินทางเผชิญภัยของโฮเมอร์ ถัดมาบทกลอนหรือ มหากาพย์ของโฮเมอร์ ได้เปลี่ยนเป็นวรรณคดีสำคัญซึ่งชาวภาษากรีกเอามาขับขาน คนที่ร้องเพลงมหากาพย์จะดีดพิณไลร่า (Lyra) คลอการร้อง ลักษณะ งานไม้ diy ง่ายๆ ขับขานนี้เรียกว่าบาดส์ (Bards) นักแสดงกลุ่มนี้พักอยู่ตามคฤหาสน์ของ เจ้าขุนมูลนายนับว่าเป็นนักเล่นดนตรีอาชีพ เห่กล่อมบทมหากาพย์โดยใช้ทำนองโบราณซึ่งเป็นท่อนสั้นๆแต่ว่ามีการแปรทำนองหลายแบบ ยิ่งไปกว่านี้ยังมีดนตรีท้องถิ่น (Folk songs) ซึ่งมีลักษณะเป็นเพลงของพวกเลี้ยงแกะที่เป่า Panpipes (อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีประเภทหนึ่งเหมือนแคน) เพื่อกล่อมฝูงแกะรวมทั้งยังมีดนตรีของคนกรุงในรูปแบบของภาควิชานักร้อง (Chorus) ร้องเพลงในพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆดังเช่น พิธีสมรส งานศพ อื่นๆอีกมากมาย หรือในจังหวะ ต่างๆยกตัวอย่างเช่น ในงานสังสรรค์ชัยฯลฯแผนกนักร้องสมัครเล่นพวกนี้ชอบว่าจ้างพวกบาดส์ให้มาดีดคีลำธาร (Kithara) คลอประกอบ
การสืบสวนเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาที่ไปของดนตรีตั้งแต่สมัยก่อนมา ถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้ได้เรื่องราว ยุคของการรู้จักใช้อักษรหรือเครื่องหมายอื่นๆเพึ่งจะมีปรากฏรวมทั้งเริ่มนิยมใช้กันในยุคเริ่มของสมัย Middle age เป็นระหว่างศตวรรษที่ 5-6 แล้วก็การบันทึกมีเพียงแค่สัญลักษณ์แสดงเพียงแค่ระดับของเสียง รวมทั้งจังหวะ ( Pitch and time ) ดนตรีเกิดมาในโลกพร้อมๆกับมนุษย์เรานั่นเอง ในสมัยแรกๆมนุษย์อาศัยอยู่ในป่าดง ในถ้ำ ในโพรงไม้ แต่ว่าก็รู้จักการตะโกนรำทำเพลงตามธรรมชาติ ดังเช่นรู้จักตบมือ เคาะหิน เคาะไม้ ผิวปาก เป่าเขา แล้วก็ออกเสียงร้องตามเรื่องตามราว การส่งเสียงร้องรำทำเพลงไปเพื่อขอร้องพระผู้เป็นเจ้า onlyonemusicbox เพื่อช่วยทำให้ตนปลอดภัย บันดลความสำราญความอุดมสมบูรณ์ต่างๆให้แก่ตน หรือเป็นการบูชาแสดงความขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้าที่บันดลให้ตนสุขสบายความสบายส่งผลให้เกิดความบรรเทา ความสำราญ
ถัดมาในอารยธรรมโบราณ (Ancient Civilization) ความเจริญรุ่งเรืองของโลกมีอยู่ในภูมิภาคทิศตะวันออก ชาติที่มีความก้าวหน้าทางด้านศิลปวัฒนธรรม ดังเช่น จีน ไทย ประเทศอินเดีย อื่นๆอีกมากมาย แล้วก็ภูมิภาคยุโรปตะวันออก ตัวอย่างเช่น อียิปต์ ซุเมอร์ บาบิโลเนียน จูเดีย แล้วก็ภาษากรีก ดนตรีทั้งยังในเอเซีย แล้วก็ยุโรปตะวันออก ได้เริ่มมีวิวัฒนการขึ้น โดยมีการสร้างสรรค์บันไดเสียงเพื่อแยก
เรียบเรียงเสียงเป็นของแต่ละชาติขึ้นมา เอกลักษณ์นี้ยังคงมีร่องรอยอยู่ในปัจจุบัน ดังเช่น บันไดเสียงเพนทาโทนิค (Pentatonic Scale) ก็ยังคงมีใช้กันในดนตรีภูมิภาคเอเซีย แต่ว่ามีไม่เหมือนกันไปในสำเนียงแล้วก็การจัดระบบเสียง ดนตรีภาษากรีกโบราณ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมดนตรีของดนตรีตะวันตกที่ยิ่งใหญ่
เป็น เมื่อโดยประมาณ 1000 ปีกลายคริสตกาล
มีการสร้างสรรค์การแบ่งระบบเสียงอย่างเห็นได้ชัดด้วยแนวความคิดทางวิทยาศาสต ร์ โดยผู้มีปัญญาภาษากรีกเป็นพิธากอรัส รวมทั้งมีการคิดเรื่องอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีประกอบกิจการร้อง มีการใช้แนวทางการบทกลอนเพลงโดยใช้ Mode ซึ่งมีที่มาจากระบบเตตร้าคอร์ด (Tetrachord) ก่อกำเนิดบันไดเสียงโบราณต่างๆเป็นปัจจัยเบื้องต้นของการดนตรีในสมัยต่อๆมาArchaic Period 700-550 B.C.ศิลป์จำนวนมากมีการเริ่มพื้นฐานในตอนปัจจุบันนี้แล้วก็ได้มีการปรับปรุงขึ้นในยุคคลาสสิกกำเนิดความชื่นชอบแบบอย่างบทกวีที่เรียกว่า “ลีริก” (Lyric) และก็การแสดงออกจากการระบายอารมณ์ในใจของบทกลอน (Music expressing sentiments)ไม่ว่าจะเป็นความยินดี หรือ ความปวดร้าวทรมาณแสนสาหัสอันมีต้นเหตุจากความรัก ความไม่ชอบ ความรู้สึกยินดีต่อความสวยสดงดงามของฤดูใบไม้ผลิ ความซาบซึ้งในความสวยของช่วงกลางคืนในช่วงฤดูร้อนหรือความรู้สึกสำนึกส่วนตัวของประพันธ์ที่มีต่อสังคม ต่อชาติสรุปความแล้ว คำประพันธ์แบบลีริก(Lyric)นี้เอื้อให้บทกลอนได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกส่วนตนได้อย่างเต็มเปี่ยม
การร้องเพลงประกอบระบำที่เรียกว่าไดธีแรมบ์ (Dithyramb) เป็นเพลงที่ใช้เส้นไหว้และก็ฉลองให้ที่รักเทพเทวดาไดโอนิซุสซึ่งเป็นเทพธรณีเป็นการร้องเพลงเพลงประสานเสียง งานไม้ diyเล็กๆ ที่มีต้นกำเนิดโดยโลกได้ผ่านหลายสมัยหลายยุค ดนตรีได้พัฒนาการไปตามความรุ่งโรจน์ งาน diy ไม้ รวมทั้งความคิดริเริ่มของผู้คน อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีที่เคยใช้ในยุคเริ่มต้นก็มีการพัฒนาการมาเป็นขั้นๆเปลี่ยน
เป็นอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรี ที่พวกเรามองเห็นอยู่ทุกวี่วัน เพลงที่ร้องเพื่อขอร้องพระผู้เป็นเจ้า ก็เปลี่ยนมาเป็นเพลงสวดทางศาสนา รวมทั้งเพลงร้องโดยปกติในระยะต้น ดนตรีมีเพียงแต่เสียงเดียวแล้วก็แนวเดียวแค่นั้นเรียกว่า Melody ไม่มีการผสานเสียง จนกระทั่งศตวรรษที่ 12 มนุษย์เราเริ่มรู้จักการใช้เสียงต่างๆมาผสานกันอย่างง่ายๆกำเนิดเป็นดนตรีหลายเสียงขึ้นมา
นักร้องชาย 12 คน ถัดมาได้มีการปรับปรุงปรับแก้โดย Arion ได้เพิ่มนักร้องเป็น 50 คนรวมทั้งกำหนดให้มีนักร้องนำ 1 คนClassical Period 550-440 B.C.โชไรเลส (Choeriles) พีนีซุส (Phrynichus)พาว่ากล่าวนุส (Pratinas) แล้วก็เธสพิส (Thespis)ได้วิวัฒนาการขับร้องประกอบระบำที่เรียกว่าไดธีแรมบ์ (Dithyramb) กล่าวอีกนัยหนึ่งได้มีการร้อง ตอบโต้กับกรุ๊ปคอรัสทำให้การแสดงเปลี่ยนรูปเป็นในลักษณะการพูดคุยกันตอบโต้กัน แทนที่จะเป็นการเล่าโดยการบรรยายอยู่ฝ่ายเดียว พวกเขายังช่วยสร้างให้กำเนิดวัฒนธรรมของภาษากรีกโบราณเป็น การแสดง (Drama) เป็นแบบอย่างการ
แสดงที่มีการผสมศิลป์การเต้นรำรวมทั้งดนตรีเข้าด้วยกันได้อย่างเท่าเทียม
ในปัจจุบันได้มีการสร้างโรงแสดงละครที่โล่งแจ้ง ตั้งอยู่ระหว่างซอกเขาที่มีเนินลาดปิดล้อมอยู่สามด้านเป็นอรรธจันทร์ที่นั่งผู้ชมซึ่งจุคนได้จำนวนไม่ใช่น้อยรวมทั้งยังมองเห็นการแสดงได้แจ่มชัดไม่มีการบังกัน อรรธจันทร์ผู้ชมนี้เซาะเป็นขั้นบันไดสูงมากขึ้นไปตามไหล่เขาที่ลาดชันโดยปิดล้อมรอบๆที่ใช้แสดงเป็นหลักที่ราบอยู่ลดน้อยลงไปเป็นรูปวงกลมหรือครึ่งวงกลม ซึ่งเรียกรอบๆว่า ออร์เคสยี่ห้อ (Orchestra) ใช้เป็นที่แสดงของพวกคอรัสซึ่งยังคงความนิยมชมชอบติดมาพร้อมกับการแสดง
ขนบประเพณีของแต่ละชาติ ศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางดนตรีตะวันตก ถือว่ามีความเกี่ยวข้องสนิทสนมกับศาสนามากมาย เพลงที่เกี่ยวกับศาสนาหรือเรียกว่าเพลงวัดนั้น ได้แต่งขึ้นอย่างถูกหลักเกณฑ์ ตามหลักวิชาการดนตรี ผู้ประพันธ์เพลงวัดควรจะมีวิชาความรู้ความรู้ความเข้าใจสูง เพราะว่าจำต้องแต่งขึ้นให้สามารถโน้มน้าวจิตใจคนฟังให้นิยมเลื่อมใสในศาสนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นเพลงสวดมนตร์ในศาสนาคริสต์ก็เลยมีเสียงดนตรีเล่นดนตรีประกอบกิจการสวดมนต์ไหว้พระ เมื่อมีเพลงเกี่ยวกับศาสนาเยอะขึ้น เพื่อเป็นการคุ้มครองป้องกันการลืมก็เลยได้มีผู้คิดค้นเครื่องหมายต่างๆแทนทำนอง เมื่อโดยประมาณ คริสต์ศักราช 1000 เครื่องหมายดังที่ได้กล่าวมาแล้วเป็น โน้ต ( Note ) นั่นเอง โน้ตที่ใช้ในหลักวิชาดนตรีพื้นฐานเป็นเสียงโด เร มี นั้น เป็นคำสวดมนตร์ในภาษาละติน ก็เลยเรียกได้ว่าวิชาดนตรีมีต้นกำเนิดมาจากวัดหรือศาสนา ซึ่งในยุโรปนั้นจัดว่าเพลงเกี่ยวกับศาสนานั้นเป็นเพลงชั้นสูงสุด ติดต่อเรา
วงดนตรีที่เกิดขึ้นในศตวรรษต้นๆจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ จะมีลักษณะต่างกันออกไป อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีที่ใช้ร้องเพลงก็มีปริมาณแล้วก็จำพวกต่างกันตามแฟชั่น ลักษณะการผสมวงจะนาๆประการ เมื่อผสมวงด้วยอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีที่ต่างจำพวกกัน หรือปริมาณของผู้บรรเลงที่แตกต่างก็จะมีชื่อเรียกวงดนตรีไม่เหมือนกันPercy A scholes (อ้างถึงใน นพพร ด่านสกุล,2541:10) ได้เอ่ยถึงการก่อกำเนิดบันไดเสียงในดนตรีตะวันตกไว้อย่างน่าดึงดูด สรุปว่า ในราวราวๆ 550 ปีกลายคริสตกาล Pythagoras ได้ศึกษาและทำการค้นพบแนวทางคิดการใช้มิเตอร์เชิงเลขคณิตกับดนตรีได้เป็นคนแรก
โดยใช้เส้นลวดเป็นเครื่องใช้ไม้สอยการทดสอบ ซึ่งทำให้เขาพบว่าเสียงที่เกิดขึ้นมาจากการดีดเส้นลวดจะครั้งการเปลี่ยนแ ปลงดังต่อไปนี้ เมื่อแบ่งครึ่งเส้นลวดระดับเสียงจะสูงมากขึ้นกว่าเดิม 1 ชุดระดับเสียง (Octave) นับได้ว่าเป็นจุดสำคัญระดับแรก เมื่อแบ่งเส้นเส้นลวดเป็น 3 ส่วนแล้ว 2 ใน 3 ส่วนของเส้นลวดจะหรูหราเสียงสูงมากขึ้นเป็นขั้นคู่ 5 สมบูรณ์แบบ ในกรณีนี้นับว่าเป็นจุดสำคัญระดับรองลงมา รวมทั้งถ้าว่าแบ่งเส้นลวดออกเป็น 4 ส่วน 3 ใน 4 ส่วนดังที่กล่าวถึงแล้วจะหรูหราเสียงสูงมากขึ้นจากพื้นเสียงเดิมเป็นขั้นคู่ 4 สมบูรณ์แบบ กรณีนี้นับว่าเป็นจุดสำคัญชั้น 3 แล้วหลังจากนั้น
Pythagoras ยังพรีเซ็นท์ไว้ว่าใน 1 ชุดระดับเสียง มี กรุ๊ปเสียง 4 ระดับ (Tetrachord) 2 ชุดเชื่อมต่อกัน กรุ๊ปเสียง 4 ระดับตามแนวความคิดของ Pythagoras มี 3 แบบตามที่แสดงต่อแต่นี้ไป Hellinistic Period 440-330 B.C.รูปแบบของการแสดงสมัยปัจจุบันนี้เริ่มไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีการปรับปรุงรูปแบบใหม่ๆเข้ามาซึ่งเปลี่ยนลักษณะของการแสดง ในสมัยปัจจุบันนี้ศิลป์และก็บทกวีกลอนต่างๆมีการปรับปรุงแยกออกมาจากดนตรีมีนักผู้รอบรู้ทางดนตรีผู้คนจำนวนมาก การศึกษาและทำการค้นพบกฎฐานรากของเสียงเกิดเรื่องที่เกี่ยวโยงกับปรัชญาและก็เลขคณิต ซึ่งนักปรัชญาและก็นักคณิตนามลือกระเดื่องของภาษากรีกเป็น ไพธากอรัส (Pythagoras) เป็นผู้วาง กฎข้อปฏิบัติไว โดยการทดสอบเกี่ยวกับการกระตุกกระเทือนของเสียงจากความสั้น – ยาวของสายที่กางไว้ ไพธากอรัสศึกษาและทำการค้นพบแนวทางที่จะสร้างระยะขั้นคู่เสียงต่างๆและระยะขั้นคู่ 8 ซึ่งเป็นหลักที่สำคัญของ
บันไดเสียงของดนตรีตะวันตก นักคิดค้นรุ่นต่อๆมา งานไม้ diyเล็กๆ ได้ปรับปรุงแนวความคิดดนตรีของภาษากรีกจนได้คือระบบที่ซับซ้อนที่รู้จักกันในนามของโมด (Mode) ซึ่งได้ที่รักบันไดเสียงทางดนตรีที่ใช้สำหรับการชักพาให้คนฟังมีความรู้สึกต่างๆกันออกไป บันไดเสียงพวกนี้ก็เลยมีการใช้สำหรับเพื่อการประดิษฐ์ดนตรีเฉพาะตามกรณี จากโมดนี้เองชาติภาษากรีกได้ปรับปรุงแนวทางของอีธอส (Doctrine of ethos) ซึ่งเป็นความเชื่อในเรื่องของพลังที่ความจริงของดนตรีโดยกล่าวไว้ว่าพลังของดนตรีส่งผลเกี่ยวโยงกับการแสดงออกถึงความรู้สึกชื่นชอบหรือความไม่ลงรอยกันพูดอีกอย่างหนึ่งเป็น ดนตรีเกี่ยวพันกับความดีความชอบรวมทั้งความทารุณพัฒนาการของดนตรีสากล diy งานไม้
ดนตรีสากล มีประวัติภูมิหลัง รวมทั้งพัฒนาการที่ช้านาน แสดงถึงความก้าวหน้าทางด้านวัฒนธรรมของชาติตะวันตกซึ่งได้รับความนิยมแล้วก็เห็นด้วยกันทั้งโลก ในการค้นคว้าดนตรีสากล เพื่อวิชาความรู้ ความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งความซาบซึ้งในดนตรีตะวันตก ก็เลยจะต้องเล่าเรียนพัฒนาการของดนตรีสากลในด้านต่างๆดังต่อไปนี้
วงดนตรีสากลสมัยต่างๆยุคกลาง (Middle Age) คริสต์ศักราช 500-1400
เพลงจำนวนมากเป็นเพลงร้องที่ใช้ในโบสถ์เพื่อยกย่องพระผู้เป็นเจ้าเพียงอย่างเดียว โดยบางทีบางทีอาจเป็นการร้องใส่ผสานกันบ้างโดยประมาณ 2-3 แนวในปลายสมัยรวมทั้งยังไม่เจอการบรรเลงเพลงที่เป็นรูปแบบมาตรฐานอย่างแจ่มแจ้ง tone – tone – semitone เรียกว่ากรุ๊ปเสียง 4 ระดับแบบลีเดียน (Lydian Tetrachord)
ความที่ได้กล่าวมาแล้ว ทำให้พวกเรารู้ดีว่า พิธากอรัส ได้ใช้ระเบียบวิธีคิดอย่างยิ่งเกี่ยวกับการแบ่งระบบของเสียงดเว้นนตร ี รวมทั้งจากการคิด Tetrachord จำพวกสำคัญๆอีกทั้ง 3 กรุ๊ป เมื่อเรียงต่อ Tetrachord เข้าด้วยกัน 2 ชุดจะทำให้กำเนิดบันไดเสียงต่างๆซึ่งบันไดเสียงที่ที่คิดขึ้นได้เรียกว่า บันไดเสียงแบบพิธากอรัส (Pythagorian Scale) แล้วก็เมื่อมีการขยายความทราบไปใช้เพื่อสำหรับในการขับขานหรือเล่นเครื่องดนตร ี ก็จะมีผลให้กำเนิดความนิยมชมชอบเฉพาะกรุ๊ปจนถึงเป็นชื่อเรียกบันไดเสียงขึ้น มาเฉพาะ ได้แก่ บันไดเสียงไอโอเนียน (Ionian) ก็มาจากฝูงชนไอโอเนียนที่อยู่แถบริมหาด บันไดเสียงไอโอเนียนเป็นที่คุ้นกันดีว่าเป็นบันไดเสียงเมเจอร์ (Major Scale)

ในปัจจุบันนั่นเอง อย่างไรก็แล้วแต่ในเรื่องของโหมด (Mode) หรือบันไดเสียงโบราณนี้ได้รับแนวความคิดมาตั้งแต่ยุคกรีกของแท้อย ู่ แม้กระนั้นเมื่อถึงยุคกลางแล้วชื่อและก็รูปแบบของระบบไม่ตรงกับระบบของแขน ีกเลย อย่างเช่น ดอเรียนโหมดของภาษากรีกหมายถึงโน้ต E- E (เทียบเคียงจากคีย์บอร์ดแป้นสีขาวทั้งหมด) แต่ว่าดอเรียนโหมดของยุคกลางหมายถึงโน้ต D- D ซึ่งพัฒนาการกลุ่มนี้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความนิยมชมชอบสำหรับเพื่อการใช้ทั้งหมดทั้งปวง แบบอย่างตั้งแต่นี้ต่อไปมาจากหนังสือ The Music of Early Greece โดย Beatric Perham (1937:24) ได้แสดงบันไดเสียงภาษากรีกโบราณอีกทั้ง 3 จำพวกดังต่อไปนี้
โดยปกติโมดสามารถจัดได้เป็นสองชนิดเป็น โมดที่สื่อถึงความสงบเงียบ มีระบบระเบียบ ใช้กับพิธีบูชาของทวยเทพอพอลโลและก็โมดที่สื่อถึงความรุนแรงครึกโครมใช้กับพิธีการของทวยเทพเทวดาไดโอนีซัส ผลสะท้อนของแนวความคิดที่พูดถึงนี้ทำให้ดนตรีของภาษากรีกมีทั้งยังการแสดงออกถึงความสลับซับซ้อนของจังหวะทำนองจากการเล่นเพลงของอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีล้วนๆสำหรับการแสดงเพื่อการประลองหรือในงานพบปะสังสรรค์
ต่างๆแล้วก็ดนตรีที่แสดงออกถึงแบบอย่างที่มีมาตรฐานซึ่งสโมสรกับการบรรยายเรื่องราวตำนานของวีรบุรุษแล้วก็การเรียนสำหรับพวกสังคมชั้นสูงที่เต็มไปด้วยปรัชญาอันลึกซึ้งในหนังสือ Poetics นั้น อริสโตเติล (Aristotle) ได้ชี้แจงว่าดนตรีมีอำนาจเหนือจิตใจมนุษย์อย่างไรบ้าง
เขาบอกว่าดนตรีเอาอย่างอารมณ์ต่างๆของคนเรา ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อมนุษย์ได้ยินดนตรีซึ่งเอาอย่างอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง งานไม้ diyเล็กๆ ก็จะกำเนิดมีความรู้สึกเชื่อตามไปด้วยแนวความคิดดนตรีภาษากรีกของ Aristoxenus เปลี่ยนเป็นฐานรากสำคัญของแนวคิดดนตรีในตอนนี้โดยได้เสนอผลงานระบบเสียงที่เรียกว่า เตยี่ห้อคอร์ด (Tetrachord) 3 ประเภทเป็นDiatonic, Chromatic, แล้วก็ Enharmonic โดยเสียงที่อยู่ข้างในคู่ 4 เพอร์เฟคจะถูกเรียกว่า Shade ดังแบบอย่าง

สมัยรีเนซองส์หรือสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance คริสต์ศักราช1400-1600 เพลงในยุคนี้เริ่มมีการผสมระหว่างเพลงเบื้องต้นกับเพลงที่ใช้ในโบสถ์ โดย นำเอาแนวทางการเขียนดนตรีท้องถิ่นมาปรับใช้กับเพลงสวด นำไปสู่การนำเอาอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีบางประเภทเข้ามาประกอบในเพลงสวดที่ใช้ในพิธีการต่างๆเป็นต้นว่า ออร์แกน ฮาร์ฟสิคอร์ด ฯลฯจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่าองค์ประกอบทางดนตรีตะวันตกได้รับอิทธิพลมาจากดนตรีของชนชาต ิภาษากรีกซึ่งเป็นเชื้อชาติโบราณที่มีอารยธรรมสูงศักดิ์ ภาษากรีกได้ประดิษฐ์สร้างสรรค์สิ่งต่างๆที่มีคุณประโยชน์ต่อมนุษย์ไว้จำนวนมาก
อีกทั้งในด้านเลข ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และก็ศิลป์ดนตรี เมื่อภาษากรีกแปลงเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของอาณาจักรโรมัน วัฒนธรรมด้านดนตรี ทั้งปวงก็เลยถูกถ่ายทอดไปสู่โรมัน เมื่ออาณาจักรโรมันล่มสลาย วัฒนธรรมดนตรีที่โรมันรับมาจากภาษากรีก ได้แพร่ระบาดไปสู่ชาติต่างๆทั่วพื้นทวีปยุโรป
ครั้นเมื่อศาสนาคริสต์เกิดขึ้น ดนตรีก็ยิ่งมีหน้าที่พร้อมกันเป็นเงาตามตัวไปด้วย ช่วงประวัติศาสตร์ดนตรีตะวันตกแบ่งได้ตอนช่วงเวลา แต่ละตอนช่วงเวลาหรือแต่ละยุค มีลักษณะผลงานทางดนตรีที่ไม่เหมือนกันออกไป ประวัติศาสตร์ดนตรีเริ่มตั้งแต่ยุคกลาง ยุคเรเนสซองส์ ยุคบาโรค ยุคคลาสสิก ยุคโรแมนติก ยุคอิมเพรสชั่นนิสติค แล้วก็ยุคศตวรรษที่ 20