ยินดีต้อนรับสู่ Tune Creator โปรแกรมที่จะช่วยให้คุณสร้างเพลงสำหรับกล่องดนตรีแบบกำหนดเองได้อย่างง่ายดาย ระบบจะประเมินว่าโน้ตของคุณสามารถผลิตเป็นกล่องดนตรีจริงได้หรือไม่ โดยพิจารณาจากเงื่อนไขหลัก 3 ข้อดังนี้:

 

1. Note Index


Note Index เป็นค่าที่ระบุว่ามีซี่หวีของกล่องดนตรีถูกใช้กี่ซี่ ค่านี้ต้องเป็น 18 เท่านั้นจึงจะสามารถผลิตได้
  • คำนวณจากจำนวนโน้ตที่แตกต่างกัน, โน้ตที่ซ้ำกัน, ความยาวของเพลง และความเร็วของเพลง
  • ตาราง Single Note Index แสดงจำนวนซี่หวีที่แต่ละโน้ตใช้ ตัวเลขในแถวที่สองจะบวกกันเป็นค่า Note Index
  • โน้ตซ้ำคือโน้ตที่วางใกล้กันในช่วงเวลาสั้นๆ โน้ตระหว่างรอยต่อ loop ก็จะนำมาพิจารณาโน้ตซ้ำด้วย

สาเหตุที่ทำให้ Note Index เกิน 18 :
  • โน้ตซ้ำมากเกินไป หากวางโน้ตเดียวกันซ้ำ ๆ และอยู่ใกล้กันเกินไป ระบบจะนับเพิ่มในตาราง Single Note Indexเช่น หากโน้ต D5 ถูกวางติดกัน 3 ตัว ค่า Single Note Index จะเป็น เมื่อรวมกับโน้ตอื่น ๆ จะทำให้ค่า Note Index รวมเกิน 18 วิธีแก้: ลบโน้ตซ้ำออก 1 ตัว เพื่อลดค่าเหลือ 2
  • Loop length สั้นเกินไป ความยาวของลูปมีผลต่อระยะปลอดภัยที่สามารถวางโน้ตซ้ำได้ หาก Loop Length สั้น (เช่น 15 วินาที) โน้ตที่ห่างกัน 3 ช่องจะยังถูกนับเป็นโน้ตซ้ำ แต่ถ้าเพิ่มความยาวลูปเป็น 24 วินาที ด้วยการลดความเร็วเพลง โน้ตเดียวกันในระยะห่างเท่าเดิมอาจไม่ถูกนับซ้ำ ตัวอย่าง: โน้ต D5 ที่วางห่างกัน 3 ช่อง ที่ Loop 15 วินาที → Single Note Index = 2, ที่ Loop 24 วินาที → Single Note Index = 1

2. Note Diversity คืออะไร?


Note Diversity วัดการกระจายตัวของโน้ตในแนวตั้ง หากค่านี้สูงเกินไป เสียงของกล่องดนตรีจะไม่สมดุลและอาจฟังดูไม่ไพเราะ

ค่าต้องต่ำกว่า 1.5 จึงจะผ่าน
  • คำนวณจากการกระจายตัวของโน้ตในแนวตั้งของ Grid
  • ค่าต่ำกว่า 1.0 จะช่วยให้เสียงของกล่องดนตรีออกมามีคุณภาพดีขึ้น

สาเหตุที่ทำให้ Note Diversity ไม่ผ่าน:
  • มีช่องว่างระหว่างโน้ตสูงและต่ำมากเกินไป เช่น ใช้โน้ตต่ำอย่าง C4, D4 แล้วข้ามไปยัง E5, F5 โดยไม่ใช้โน้ตระหว่างกลางเลย ระยะห่างระหว่าง D4 กับ E5 จะกว้างเกินไป ทำให้การกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ วิธีแก้: ควรเติมโน้ตที่อยู่ระหว่างกลาง เช่น F4, G4 เพื่อให้กระจายตัวดีขึ้น
  • มีโน้ตซ้ำที่โน้ตต่ำมากเกินไป โน้ตคอร์ดที่อยู่ฝั่งขวาของตาราง Single Note Index (มักเป็นโน้ตต่ำ) ควรมีค่าเป็น 1 ทั้งหมด หากโน้ตเหล่านี้มีค่าเป็น 2, 3 หรือ 4 แสดงว่ามีการเล่นซ้ำบ่อยเกินไป จะทำให้ Note Diversity สูงขึ้นมาก
  • ใช้โน้ตหลากหลายน้อยเกินไป เช่น ใช้แค่ 5 ตัวโน้ต (C4, E4, F4, G4, B4) แล้วนำไปวางซ้ำจนได้ Note Index ครบ 18 แม้ Note Index จะผ่าน แต่การใช้โน้ตจำกัดแบบนี้จะทำให้ Note Diversity ไม่ผ่านเพราะโครงสร้างเสียงไม่มีความหลากหลายเพียงพอ

3. ความยาว Loop


ต้องไม่เกิน 25 วินาที (แนะนำให้ต่ำกว่า 24 วินาที)
  • คำนวณจากความเร็วเพลง (Tempo) และความยาว Loop
  • หากเกิน 24 วินาที กล่องดนตรีจริงจะเล่นเร็วกว่าเสียงที่ได้จากโปรแกรม

การตั้งค่าเพิ่มเติมที่ไม่ส่งผลต่อการคำนวณ


  • Transpose: ระบุจำนวน semitone ที่เสียงของกล่องดนตรีจริงจะถูกปรับเปลี่ยน เช่น หากค่าเป็น +1 กล่องดนตรีจริงจะเล่นสูงขึ้น 1 semitone คุณสามารถปรับให้เสียงในโปรแกรมตรงกับกล่องดนตรีจริงได้โดยกดปุ่มสามเหลี่ยมที่มุมซ้ายบนหรือมุมซ้ายล่างของโปรแกรมเพื่อทำให้ค่า transpose เป็น 0
  • Time Signature: ใช้ปรับ Grid เท่านั้น ไม่มีผลต่อการคำนวณ
  • Resolution: ใช้เปลี่ยนความละเอียดของ Grid แต่ไม่ส่งผลต่อผลลัพธ์

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ข้อจำกัดของกล่องดนตรี สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่.

ขั้นตอนการสร้างเพลงเบื้องต้น


Step 1: วางเมโลดี้หลัก (vocal melody) ลงบน grid ให้ตรงจังหวะ แล้วตรวจสอบค่า note index หากวางแค่เมโลดี้แล้วเกิน 18 แสดงว่าเพลงนี้ไม่สามารถผลิตได้



Step 2: วางโน้ตคอร์ดในตำแหน่งที่ถูกต้อง และใช้ chord guide เพื่อตรวจสอบโน้ตคอร์ด



Step 3: เรียบเรียงโน้ตคอร์ดให้เหมาะสมตาม note index ที่เหลืออยู่


คีย์ลัด


  • ลูกศร: เลื่อนโน้ต
  • Ctrl + Z: ยกเลิกการกระทำล่าสุด
  • Ctrl + Y: ทำซ้ำการกระทำ
  • Ctrl + C: คัดลอกโน้ต
  • Ctrl + V: วางโน้ต
  • Ctrl + A: เลือกทั้งหมด
  • Space Bar: เล่น/หยุดเพลง
  • S: สลับโหมดเลือกโน้ต
  • C: ยกเลิกการเลือก
  • Delete: ลบโน้ต
  • Shift + ลูกศร: เลื่อนโน้ตทีละ 1 Step