วิธีการเลือกลักษณะกล่องดนตรีให้เหมาะสมกับผู้รับ

กล่องดนตรีนั้นถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายยุค 80 ในช่วงแรกนั้นกล่องมีขนาดเล็กจิ๋วที่นำไปใส่ในนาฬิกาแบบพกพาได้ เพื่อเป็นการบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไรแล้ว ถ้าเป็นเวลา 11:00 นาฬิกาก็จะมีเสียงออกมาจากตัวเรือน เพื่อบอกเวลาที่เป็นเลขกลมๆ และเสียงจากในนาฬิกาสมัยนั้นก็ได้มาจากกล่องดนตรีที่มีขนาดเล็ก เป็นเครื่องบอกการเปลี่ยนเวลาที่ดีของยุคนั้น ต่อมาก็ได้มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนถึงยุคปัจจุบันที่กล่องดนตรีนั้นมีมากมายหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกสรรกันตามวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล อย่างเช่นเคยแอดก็จะเสนอร้านโปรดที่ชำนาญเรื่องกล่องดนตรีของทางร้าน Only one music box ทางร้านมีกล่องดนตรีให้เลือกได้หลากหลายมากค่ะ วิธีการเลือกกล่องดนตรีให้เมาะสมกับผู้รับ คงเป็นเรื่องที่เราต้องคิดคำนึงถึงหลายๆปัจจัยว่าผู้รับเป็นใคร อายุเท่าไหร่ ชอบสีไหนเป็นพิเศษ และเราอยากจะมอบให้เนื่องในโอกาสอะไร การมอบกล่องดนตรีเป็นของขวัญนั้นถือได้ว่าเป็นการมอบของที่มีระยะการใช้งานที่ยืนยาว ที่จะยังคงเก็บไว้เป็นความประทับใจสำหรับผู้ที่ได้รับ ถ้าเราทราบถึงข้อมูลของผู้รับเป็นอย่างดีก็จะยิ่งให้การทำกล่องดนตรีนั้นง่ายขึ้นยิ่งไปอีกค่ะ เรื่องดนตรีที่ชอบเป็นพิเศษก็สามารถนำไปให้ทางร้าน Only one music box ช่วยได้ ซึ่งทางร้านสามารถนำเพลงที่เราต้องการไปทำโน้ตใส่ลงไปในกล่องดนตรีที่เราเลือกได้ โดยการนำลิงค์เพลงส่งไปให้ทางร้าน ส่วนการเลือกรูปแบบของกล่องดนตรีนั้นสามารถเข้าไปเลือกรับชมได้ทางเว็บไซต์ของทางร้านเลยค่ะ หรือสามารถทักไปปรึกษาขอคำแนะนำเกี่ยวกับกล่องดนตรีกับทางร้านได้เสมอเลยนะคะ ถ้าผู้รับที่เราเลือกจะส่งให้เป็นของขวัญเป็นเด็ก เราก็ควรหาเนื้อเพลงให้เมาะสมสำหรับเด็กไปด้วย เช่น เพลง Twinkle twinkle little star, We wish you a merry Christmas, Mary had a little lamb จะเป็นเพลงที่เหมาะและเข้ากับช่วงวัยเด็ก ฝึกทักษะการฟังไปด้วย โดยเฉพาะการเลือกกล่องดนตรีให้เหมาะกับวัยหรืออายุ จะยิ่งช่วยให้เราเลือกเพลงและเลือกลักษณะของกล่องดนตรีให้เข้ากับผู้ที่จะได้รับกล่องดนตรีนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อผู้รับได้รับกล่องดนตรีของคุณไปแล้วมีบทเพลงที่ผู้รับชอบด้วยจะยิ่งเป็นการยืนยันว่าเขาจะนึกถึงคุณเมื่อตอนที่เขาเปิดกล่องดนตรีนี้ฟังจริงๆ หรือการเลือกเพลงให้กับผู้รับที่เป็นวัยรุ่น คุณอาจจะเลือกเพลงป็อบ สากล หรือเพลงเกาหลีของศิลปินที่ผู้รับชอบ ไม่อยากจะนึกภาพเลยเมื่อผู้รับนั้นเปิดกล่องดนตรีนี้และได้ยินเพลงจากศิลปินที่เขาชอบจะยิ่งทำให้ผู้รับนั้นประทับใจมากแค่ไหน หรือจะสลักกล่องเป็นรูปศิลปินด้วยยิ่งดีเลยค่ะ ทางร้านสามารถปรับโน้ตเพลงได้ตามลูกค้าเลยนะคะ ส่วนเรื่องรูปทรงขนาดของกล่องดนตรีก็ขึ้นอยู่กับว่า เราอยากให้เขาได้รับกล่องดนตรีไปไว้ตรงไหน อย่างเช่นต้องการให้ผู้รับไว้ในห้องทำงานตกแต่งเรียบหรูก็ขอแนะนำให้กล่องดนตรีนั้นมีขนาดที่ใหญ่หน่อย หรือถ้าให้กับเด็กวัยเรียนก็เลือกกล่องดนตรีที่มีขนาดกลางๆ ที่สามารถวางไว้บนโต๊ะอ่านหนัง ไว้เป็นของตกแต่งที่อยู่คู่กับหนังสือแล้วดูดียิ่งขึ้น หรือถ้าให้กับผู้สูงอายุก็แนะนำให้กล่องดนตรีมีรูปแบบเรียบๆ ขนาดเล็กพกพาง่าย ไว้ฟังตอนนั่งพักในห้อง ทั้งหมดนี้เราออกแบบกล่องดนตรีของเราได้ตามความต้องการได้เลยค่ะ แค่ให้คำนึงถึงความชื่นชอบของผู้รับเป็นพิเศษจะดีที่สุดค่ะ เพราะยิ่งทำให้มีความอบอุ่นหัวใจระหว่างผู้ให้กับผู้รับ และการเลือกกล่องดนตรีนั้นถือได้ว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ยิ่งให้ของที่เราเลือกมาเป็นพิเศษยิ่งน่าประทับใจและน่าจดจำสำหรับทั้งผู้ให้และผู้รับ